สีผนังบ้าน นอกจากจะช่วยให้บ้านสีสวยมีสไตล์ในแบบที่ต้องการแล้ว ยังเป็นองค์ประกอบสำคัญที่ช่วยเพิ่มพื้นที่เคลือบวัสดุไม่ให้ผุกร่อน ช่วยให้ตัวบ้านคงทน และมีอายุการใช้งานยาวนานขึ้น แต่เมื่อเวลาผ่านไป ไม่ว่าสีผนังบ้านจะได้มาตรฐานแค่ไหน ก็ย่อมมีการเสื่อมสภาพ ซีดจางไปตามกาลเวลา สีที่ผิดเพี้ยนไปจากเดิม ไม่เพียงแต่จะทำให้บ้านดูเก่า ไม่สดใส บางครั้งยังอาจส่งผลเสียต่อสุขภาพของคนในบ้านด้วย ซึ่งเจ้าของบ้านจะลุกขึ้นมาจัดแจงทาสีใหม่ให้บ้านสวยไฉไลดังเดิม

 

ดังนั้น บทความนี้ TOA จึงอยากมาแนะนำ 8 อุปกรณ์ทาสีบ้านที่ทุกคนต้องมี พร้อมวิธีการดูแลรักษาให้เก็บได้นาน บอกเลยว่าบทความนี้ไม่เพียงแต่จะแนะนำอุปกรณ์สำคัญที่เจ้าของบ้านหรือช่างทาสีมือใหม่ควรรู้เท่านั้น แต่ยังรวบรวมข้อดีของอุปกรณ์แต่ละชนิด วิธีการใช้งานที่ถูกต้องและเหมาะสม รวมถึงวิธีการดูแลรักษา เพื่อให้อุปกรณ์แต่ละชิ้นสามารถใช้งานได้นาน และมีประสิทธิภาพในการการทาสีบ้านครั้งต่อๆ ไปอีกด้วย หากพร้อมแล้วก็มาดู 8 อุปกรณ์ทาสีบ้านที่ต้องมี ไปพร้อมๆ กันในบทความนี้ได้เลย

 

1. แปรงทาสี

แปรงทาสีหรืออุปกรณ์ที่มีไว้แต่งแต้มสีลงบนผนัง โดยทั่วไปแปรงทาสีจะประกอบด้วยด้ามไม้สำหรับจับและขนสำหรับทาสี การใช้แปรงทาสีในการทาสีบ้านนั้นจะช่วยให้การกระจายสีบนพื้นผิวผนังสม่ำเสมอและราบเรียบมากขึ้น

 

ประเภทของแปรงทาสี

 

แปรงทาสีน้ำมัน : เป็นแปรงทาสีทั่วไป ที่สามารถใช้ทาสีได้ทั้งน้ำมัน สีน้ำพลาสติก และน้ำมันชัดเงา

แปรงขนอ่อน : เป็นแปรงทาสีที่มีลักษณะขนอ่อน เหมาะกับการใช้ทาสีน้ำมันชักเงาหรือทาแล็กเกอร์

แปรงดอกหญ้า : เหมาะแก่การใช้งานทาสีน้ำมันพลาสติก สีอะคริลิก แต่ไม่แนะนำให้ทาสีน้ำมันเนื่องจากขนแปรงอาจหลุดง่าย

แปรงแบบทำมุม : เป็นแปรงทาสีที่ที่ตัดขนแปรงให้เอียง เพื่อให้ได้มุม และองศาตามที่ต้องการ ซึ่งแปรงชนิดนี้เหมาะแก่การทาสีในพื้นที่แคบมุม ที่ไม่สามารถใช้แปรงขนาดใหญ่แทรกเข้าไปได้

สำหรับขนาดในการเลือกแปรง แนะนำให้เลือกให้เหมาะสมตามการใช้ เช่น ใช้แปรงหน้ากว้างถ้าผนังใหญ่ หรือใช้แปรงทาสีทำมุมถ้าผนังแคบ เป็นต้น

 

วิธีใช้

แปรงทาสีมีวิธีการใช้งานง่ายๆ ซึ่งมีวิธีในการใช้งาน ดังนี้

 

เทสีจากถังสีลงบนภาชนะขนาดพอดีกับการใช้งาน

จุ่มแปรงทาสีลงบนภาชนะลึกลงไปประมาณ 1 ใน 3 ของความยาวขนแปรงเท่านั้น

ปาดสีส่วนที่เกินออกด้านข้างภาชนะ

ทาสีลงบนผิวผนังตามความยาวของผนัง จากนั้นจึงทาตามขวางของด้านกว้าง แล้วทาตามยาวทับอีกครั้งหนึ่ง

ใช้แปรงปาดผนังจนเสร็จสิ้น ทิ้งให้สีอยู่ตัวประมาณ 3-6 ชั่วโมง เมื่อครบกำหนดสีก็จะเริ่มแห้งกำลังพอดี จากนั้นจึงค่อยเก็บรายละเอียด เพื่อให้ชิ้นงานมีความเนี้ยบมากขึ้น

วิธีการเก็บรักษา

เมื่อใช้งานจนเสร็จสิ้นแล้ว หากต้องการทำความสะอาดและเก็บรักษาแปรงทาสี เพื่อยืดอายุการใช้งาน แนะนำให้ทำความสะอาดแปรงให้เหมาะกับประเภทของสีที่ใชเงาน ดังนี้

 

สีทั่วไป ใช้เครื่องมือขูดสีออกจากขนแปรงให้เรียบร้อย

สีน้ำทาอาคาร หลังจากทาสีเสร็จ อาจนำไปจุ่มและล้างในน้ำให้สะอาด

สีน้ำมัน ทำความสะอาดด้วยทินเนอร์ทั่วไปก่อน จากนั้นจึงนำผ้าสะอาดเช็ดและเก็บไว้ที่แห้ง

Tips : ในกรณีที่จำเป็นต้องใช้แปรงทาสีข้ามคืน หากไม่ต้องการให้ขนแปรงแห้งกรังจนผิดรูป แนะนำให้คลุมหัวแปรงด้วยฟิล์มห่ออาหาร หรือจุ่มหัวแปรงทิ้งไว้ในถังสี เพียงเท่านี้หัวแปรงก็จะคงอยู่ในสภาพเดิม และสามารถใช้งานในวันถัดไปได้อย่างดีแล้ว

 

 

 

2. ลูกกลิ้งทาสี

ลูกกลิ้งทาสี ถือเป็นอุปกรณ์ทาสีบ้านที่สำคัญอีกอย่างหนึ่ง ที่มีหน้าที่ในการกระจายสีให้มีความสม่ำเสมอและเรียบเนียนบนผิวผนัง แต่ลูกกลิ้งทาสี จะมีความพิเศษตรงที่ลักษณะการกลิ้งเพื่อทาสีนั้นจะช่วยผ่อนแรงของผู้ทาสีให้สะดวกสบายและใช้งานง่ายขึ้น อีกทั้งยังทำให้สีผนังดูสวยและเรียบกว่าการใช้แปรงทาสีอีกด้วย

 

ประเภทของลูกกลิ้งทาสี

 

โดยทั่วไปลูกกลิ้งทาสี สามารถแบ่งออกได้ดังนี้

 

ลูกกลิ้งขนยาว ลูกกลิ้งประเภทนี้จะช่วยให้สีซึมเข้าสู่ร่องผนังขระขระหรือผนังที่ไม่เรียบได้ค่อนข้างดี

ลูกกลิ้งขนสั้นหรือลูกกลิ้งขนเกลี้ยง เป็นลูกกลิ้งประเภทที่ทำมาจากวัสดุหลายชนิด ทั้งผิวกำมะหยี่ ใยสังเคราะห์ เส้นใยไฟเบอร์ เหมาะแก่การใช้กับสีประเภทสีน้ำมัน สีอะคริลิค แล็กเกอร์ หรือสีเคลือบเงา และ

ลูกกลิ้งโฟม ลูกกลิ้งน้ำหนักเบา ที่มีคุณลักษณะเด่นคือทำความสะอาดง่ายแต่อาจไม่เป็นที่นิยมเท่ากับลูกกลิ้งสองประเภทแรกมากนัก เพราะทาสีได้ไม่สม่ำเสมอ

วิธีใช้

ลูกกลิ้งทาสี มีวิธีการใช้งานเรียบง่าย ไม่ซับซ้อน

 

นำลูกกลิ้งไปล้างฝุ่นผง คราบสกปรกด้วยน้ำสะอาด

นำไปกลิ้งบนพื้นผิวเรียบ เพื่อกำจัดร่องรอยน้ำที่หลงเหลืออยู่

จุ่มลูกกลิ้งในถาดหรือถังสี

รีดสีส่วนเกินออกอย่างช้าๆ หลังจากนั้นนำไปกลิ้งบนผนังที่เตรียมไว้ โดยแนะนำให้กลิ้งจากด้านบนลงมาด้านล่าง 2-3 ครั้ง เพื่อให้ผนังสวยเรียบเนียนเสมอกันอีกด้วย

วิธีการเก็บรักษา

สำหรับวิธีเก็บรักษา ลูกกลิ้งนั้นขึ้นอยู่กับชนิดของสีที่ใช้ ดังนี้

 

สีน้ำ ก็ให้จุ่มในน้ำและทำความสะอาด

สีน้ำมันก็ล้างทำความสะอาดด้วยทินเนอร์ทั่วไป

Tips : ข้อสำคัญที่จะช่วยให้ลูกกลิ้งทาสี ใช้งานได้นาน คือ เมื่อล้างเสร็จแล้วทุกครั้ง ควรนำไปแขวนตากให้แห้งสนิท เพราะเมื่อลูกกลิ้งแห้งสนิท ก็จะไม่เกิดกลิ่นอับและสามารถใช้งานในครั้งต่อไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ

 

 

3. ถาดกลิ้งสี หรือถาดรองสี

ถาดกลิ้งสีหรือถาดรองสีมีไว้สำหรับแบ่งสีออกจากังสี เพื่อให้สามารถผสมตามอัตราส่วนที่ระบุไว้ก่อนเริ่มทาสีจริง นอกจากเพื่อความสะดวกในการทำงานแล้ว หากใช้สีไม่หมดและต้องการนำกลับมาใช้ใหม่ การจุ่มแปรงทาสีลงไปในถังสีโดยตรง อาจทำให้เกิดเชื้อแบคทีเรีย จนทำให้สีเน่าเสีย และไม่สามารถใช้งานในครั้งต่อไปได้

 

วิธีใช้

สำหรับวิธีการใช้งานถาดกลิ้งสีหรือถาดรองสี เพียงใช้ถาดรองสีแบ่งสีออกจากถังในปริมาณและสัดส่วนที่ต้องการ โดยเลือกใช้ถาดรองสีตามขนาดของหัวแปรงทาสีและลูกกลิ้งทาสี ที่เหมาะสม เพื่อไม่ให้ขั้นตอนการทาสีเลอะเทอะโดยไม่จำเป็น

 

วิธีการเก็บรักษา

สำหรับวิธีการรักษาถาดรองสี เมื่อใช้งานเสร็จสิ้นแล้วเพียงล้างสีออกจากถาดรองสีให้สะอาดหมดจดตามประเภทสี ไม่ว่าจะเป็นการล้างด้วยน้ำสะอาด หรือล้างด้วยทินเนอร์ จากนั้นเมื่อกำจัดสีจนเกลี้ยงถาดรองแล้ว ให้ใช้ผ้าสะอาดชุบน้ำหมาดๆ เช็ดทำความสะอาดอีกครั้ง จากนั้นนำไปตากไว้ในที่แห้งเพื่อให้แสงแดดฆ่าเชื้อโรค แล้วจึงนำมาเก็บในกล่องหรือสถานที่ไม่อับชื้น เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการใช้งานครั้งต่อไป

 

 

 

4. ด้ามต่อลูกกลิ้ง

ด้ามต่อลูกกลิ้ง คือ อุปกรณ์สำคัญที่ช่วยเพิ่มความยาวให้กับลูกกลิ้งทาสีเพื่อใช้ในการทาสีในพื้นที่สูง ด้ามต่อลูกกลิ้งออกแบบให้รับน้ำหนักลูกกลิ้งได้ดี อีกทั้งยังมีหลายขนาดเพื่อตอบโจทย์ความยาวผนังที่ไม่เท่ากันอีกด้วย โดยด้ามต่อลูกกลิ้งมีความยาวให้เลือกตั้งแต่ขนาด 2 เมตร 3 เมตร ไปจนถึงขนาด 4 เมตร ส่วนใหญ่แล้ววัสดุด้ามต่อที่เป็นที่นิยมจะเป็นอลูมิเนียม เนื่องจากมีน้ำหนักเบา ทนทาน แข็งแรง

 

วิธีใช้

ด้ามต่อลูกกลิ้งจะถูกนำมาใช้งานก็ต่อเมื่อลูกกลิ้งทาสีนั้นความยาวไม่เพียงพอ จนไม่สามารถเอื้อมทาสีผนังในระดับความสูงที่ต้องการได้ จึงจำเป็นต้องเพิ่มความยาวของด้ามต่อด้วย “ด้ามต่อลูกกลิ้ง” วิธีการใช้งานก็คือนำด้ามต่อมาต่อเข้ากับปลายด้ามจับเดิมของลูกกลิ้งสี บิดล็อคเกลียวตามความยาวด้ามที่ต้องการ จากนั้นก็ใช้ทาสีตามความสูงที่ต้องการได้

 

วิธีการเก็บรักษา

หลังจากใช้งานเสร็จแล้วแนะนำให้ตรวจเช็คว่ามีเลอะคราบสกปรกหรือไม่ ใช้ผ้าชุบน้ำทำความสะอาด จัดเก็บในที่แห้ง และไม่ควรวางใกล้ของร้อนหรือวางสิ่งของหนักทับ เพื่อไม่ให้ด้ามต่อเกิดความเสียหาย

 

 

5. ถังสี

ถังสีถือเป็นอุปกรณ์ชิ้นสำคัญในขั้นตอนการทาสีทั้งหมด ถังสีในทีนี้อาจเป็นได้ทั้งถังสีที่บรรจุสีที่ซื้อมาสำหรับทาบ้าน หรือถังสีที่หมายถึงถังพลาสติกสำหรับแบ่งแยกสีออกมาเพื่อใช้งาน

 

วิธีใช้

หากเป็นถังบรรจุสีที่ซื้อมาสำหรับทาสีบ้าน แนะนำให้อ่านข้อมูลข้างถังถึงวิธีการใช้งานอย่างละเอียด ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลการใช้งาน อัตราการผสมน้ำ การใช้อุปกรณ์ที่เหมาะสม เพื่อให้สีเป็นไปตามความต้องการและไม่เกิดปัญหาลอกล่อน

 

วิธีการเก็บรักษา

หากใช้สีไม่หมด อาจเก็บสีไว้ในภาชนะเดิมแต่เพิ่มเติมด้วยการปิดให้สนิทเพื่อป้องกันอากาศเข้า โดยอาจใช้ฟิล์มห่ออาหารคลุมด้านบนและปิดฝาอีกครั้ง เพื่อไม่ให้สีแห้ง นอกจากนี้อย่าลืมติดชื่อสี รหัสสี รวมถึงวันที่ใช้งานล่าสุดไว้ที่ฝากระป๋องด้วย เพื่อให้ง่ายต่อการใช้ในครั้งถัดไป แต่หากสีที่ใช้ไปเหลือน้อยแล้ว อาจใช้วิธีการแบ่งสีลงในภาชนะที่เล็กลงและมีฝาปิดแน่น นอกจากนี้ควรเก็บไว้ในที่ที่มีอุณหภูมิคงที่ ไม่ถูกแสงแดด เพียงเท่านี้ก็จะสามารถยืดอายุการใช้งานสี เพื่อให้ใช้ในครั้งต่อไปได้แล้ว

 

 

6. แผ่นพลาสติก หรือผ้าใบปูรองสี

ระหว่างขั้นตอนการทาสี ปฏิเสธไม่ได้เลยว่ามีโอกาสสูงมากที่จะเกิดความเลอะเทอะบนพื้นขณะยกลูกกลิ้งทาสี บนผนัง ดังนั้น แผ่นพลาสติกหรือผ้าใบปูรองสีจึงมีความสำคัญ ซึ่งแผ่นพลาสติกหรือผ้าใบปูรองสี จึงมีหน้าที่รองรับสีที่หยดกระจายเต็มพื้น เนื่องจากสีที่หยดหากทิ้งไว้นานก็อาจเป็นรอยคราบที่ทำความสะอาดได้ยาก ดังนั้น แผ่นรองสีจึงมีความสำคัญเพื่อป้องกันการสกปรกเลอะเทอะตรง

 

วิธีใช้

สำหรับวิธีการใช้งาน เพียงกางแผ่นพลาสติกหรือผ้าใบปูรองสีที่ซื้อมาตามขนาดที่ต้องการไว้บริเวณถังสี เมื่อใช้แปรงทาสีหรือลูกกลิ้งทาสีจุ่มลงในถังและปาดสีส่วนเกินที่ภาชนะแล้ว ยกแปรงหรือลูกกลิ้งขึ้นให้อยู่ในพื้นที่ของแผ่นพลาสติกหรือผ้าใบปูรองสี เพื่อให้สีส่วนเกินที่อาจหยดเลอะเทอะ หยดลงบนแผ่นผ้าใบปูรองแทน

 

วิธีการเก็บรักษา

สำหรับแผ่นพลาสติก หรือผ้าปูรองสีนั้นไม่จำเป็นต้องการการดูแลมากนัก แต่หลังจากที่ใช้งานเสร็จควรนำไปตากเพื่อให้สีที่หยดลงบนพื้นผิวแห้งสนิท หากสีที่หยดลงบนผ้าใบหรือแผ่นพลาสติกไม่ได้เลอะมาก เมื่อตากจนแห้งแล้วก็อาจพับหรือจัดเก็บไว้ในสถานที่แห้งและอุณหภูมิคงที่ เพื่อนำมาใช้ปูในการทาสีครั้งต่อไป

 

 

7. เทปย่น

เทปย่นหรือกระดาษกาวย่น คืออุปกรณ์ทาสีบ้านที่หน้าที่สำหรับติดเพื่อกั้นพื้นที่ส่วนที่ไม่ต้องการทาสี ป้องกันไม่ให้สีเลอะออกจากพื้นที่ทาสี นอกจากนี้ยังช่วยเก็บขอบของการทาสีให้สวยงามมากขึ้น เนียนกริบ ไม่เลอะเทอะ หรือทาเลยขอบอีกด้วย

 

ขนาดของเทปย่น

 

เทปย่นมีอยู่ด้วยกันหลายขนาด ทั้งขนาด 3/4 นิ้ว ขนาด 1 นิ้ว ขนาด 1.5 นิ้ว หรือขนาดอื่นๆ ตามแต่ความเหมาะสมของพื้นที่ หากเป็นไปได้ นอกจากขนาดที่ควรเลือกให้เหมาะสมกับพื้นที่ที่ต้องการกั้นสีแล้ว ควรเลือกเทปกาวย่นที่มีคุณสมับัติทนทาน แข็งแรง ติดแน่น และไม่ทิ้งคราบเมื่อดึงออก ก็จะช่วยให้การกำหนดขอบเขตของการทาสีเป็นไปได้ง่ายและสวยงามมากขึ้น

 

วิธีใช้

สำหรับการใช้งาน สามารถกำหนดขอบเขตพื้นทีที่ต้องการเว้นไม่ทาสีไว้ จากนั้นดึงเทปกาวย่นออกมาแปะให้ทั่วบริเวณที่ไม่ต้องการทาสี กดให้แน่น จากนั้นทาสีตามบริเวณที่ต้องการ เมื่อทาสีผนังเสร็จสิ้น ก็สามารถดึงเทปออกและม้วนทิ้งในที่ที่เหมาะสม

 

วิธีการเก็บรักษา

สำหรับข้อควรระวังในการเก็บรักษาเทปกาวย่น เพียงเก็บในพื้นที่ที่มีอุณหภูมิพอเหมาะ ไม่เก็บในพื้นที่ที่มีอุณหภูมิสูงหรือเปียกชื้น เนื่องจากอาจทำให้คุณภาพกาวลดลง

 

 

8. บันได หรือนั่งร้านอเนกประสงค์

บันไดหรือนั่งร้านอเนกประสงค์ ถือเป็นอุปกรณ์ทาสีบ้านที่ช่วยอำนวยความสะดวกระหว่างการทาสีในพื้นที่สูง แน่นอนว่าด้ามต่อลูกกลิ้งก็อาจเป็นทางเลือกหนึ่ง แต่เมื่อผนังสูงเกินไปก็ยากที่จะควบคุมทิศทางการทาสีบนผนังหรือเก็บรายละเอียดตามขอบเล็กๆ น้อยๆ จึงจำเป็นต้องใช้บันไดสำหรับทาสี โดยทั่วไปมีความสูงตั้งแต่ 100 เซนติเมตร 110 เซนติเมตร ไปจนถึง 130 เซนติเมตร มีทั้งรูปแบบบันไดพับได้และพับไม่ได้ โดยทั่วไปนิยมใช้เป็นวัสดุอลูมิเนียม เนื่องจากน้ำหนักเบา ทำให้สามารถเคลื่อนย้ายได้สะดวก เช่นเดียวกับนั่งร้านที่มีอยู่ด้วยกันหลายขนาด แต่ขนาดที่นิยมกันก็มักจะใช้ความสูงประมาณ 1.7 เมตร

 

วิธีใช้

สำหรับการใช้บันไดและนั่งร้านอเนกประสงค์นั้นง่ายมากๆ สำหรับพื้นที่ที่ไม่สูงมาก สามารถใช้บันไดกางแล้วปีนขึ้นไปทาสีได้เลย ส่วนบริเวณที่สูงมากๆ หรือต้องใช้เวลาในการทาสี เช่น การเพ้นท์ผนังเป็นภาพต่างๆ อาจต้องใช้นั่งร้าน เพราะสามารถรองรับน้ำหนักได้ดีกว่า และสามารถใช้งานได้หลายคนในเวลาเดียวกัน

 

วิธีการเก็บรักษา

หลังใช้งานเสร็จแล้ว ให้ตรวจสอบสภาพบันไดและนั่งร้าน ไม่ว่าจะเป็นที่ยึดขั้นหรือขาตั้ง จากนั้นเก็บในห้องหรือพื้นที่แห้งเพื่อหลีกเลี่ยงความชื้นและแสงแดด หรือหากมีความจำเป็นต้องวางบนพื้น ก็ควรมีวัสดุรองรับ เพื่อป้องกันความสึกกร่อนเสียหาย

 

 

 

การทาสีบ้านแต่ละครั้ง อุปกรณ์ทาสีบ้านไม่ได้มีเพียงแค่ลูกกลิ้งและถังสี ภายใต้การปรับสีบ้านใหม่ยังมี แปรงทาสี ถาดกลิ้งสีหรือถาดรองสี ด้ามต่อลูกกลิ้ง แผ่นพลาสติกหรือผ้าใบปูรองสี เทปย่น รวมทั้งบันไดหรือนั่งร้านอเนกประสงค์ด้วย ดังนั้น จึงมีความสำคัญที่เจ้าของบ้านหรือช่างทาสีทุกคนควรรู้จักวิธีการใช้งานรวมถึงวิธีการดูแลรักษา เพื่อให้การทาสีบ้านใหม่เป็นไปด้วยความง่าย สะดวก และได้มาตรฐานที่สุดนั่นเอง

 

ที่มา : https://www.toagroup.com/th/blogs/toa-tips-how-to/282/home-painting-equipments